วิธีตรวจสอบไฟรั่วในบ้านของเราอย่างง่ายๆ

ช่วงนี้ก็เข้าหน้าฝนอย่างเต็มตัวเเล้วอันตรายจากฟืนไฟนั้นเป็นสิ่งที่ต้องระวังกันมากขึ้นวันนี้ Bewon man จะมาแนะนำวิธีตรวจสอบว่าบ้านของเรามีปัญหาไฟรั่วหรือไม่ด้วยตัวเองก่อนหาช่างมาซ่อมแซมแก้ไขจะได้รู้ก่อนทันท่วงที

  1. ปิดให้หมด

ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านทุกอย่างให้หมดก่อน โดยยังไม่ต้องยกสะพานไฟ(คัทเอาท์) จากนั้นออกไปดูมิเตอร์ไฟฟ้าหน้าบ้าน หากพบว่า จานมิเตอร์หมุนอยู่ แสดงว่าบ้านของเรามีการรั่วของไฟฟ้าอยู่ ! อย่างไรก็ดี ต้องแน่ใจว่าเราได้ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างแล้วจริงๆ ไม่ได้เผลอลืมเปิดอะไรไว้

  2. ไม่ใช่แค่แป๊บเดียว

ในการตรวจสอบ ไม่ใช่ทำแค่แป๊บเดียวนะจ้ะ เพราะบางครั้งกระแสไฟที่รั่วอาจจะไม่มากนัก (ในกรณีที่เราปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่าง แต่มิเตอร์ยังหมุน แปลว่า มันรั่วหนักเอาการเลยทีเดียว!) จะต้องทิ้งระยะเวลาสักพัก 2 – 4 ชั่วโมง แล้วมาตรวจดูอีกครั้ง หากพบว่าจานมิเตอร์หมุนเคลื่อนไปจากเดิม ให้รีบติดต่อหาช่างไฟมาตรวจสอบไฟฟ้าภายในบ้านของเราได้เลย เพราะมันรั่วแน่นอนแล้วล่ะครับ^^

3. ใช้ปากกาเช็คไฟฟ้าแบบไม่ต้องสัมผัสตรงกับสายไฟ จาก Bewon Lighting

นี่คือหนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุด!! เราสามารถนำเอาปากกาวัดไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดจาก Bewon Lighting  มาใช้เป็นเครื่องมือตรวจสอบไฟรั่วได้

วิธีการก็ง๊ายง่าย^^ เพียงแค่คุณเอาปากกาเช็คไฟไปจ่ออยู่ใกล้ๆกับสายไฟตามจุดต่างๆ ของตัวบ้าน  รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ เช่น ไมโครเวฟ ตู้เย็น หรือเครื่องทำน้ำอุ่นภายในบ้าน โดยไม่ต้องปิดคัทเอาท์ตู้ไฟหลัก คุณก็สามารถรู้ได้เลยทันทีว่ามีไฟวิ่งอยู่หรือไม่ และในกรณีที่คุณปิดไฟทุกอย่างแล้ว หรือเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรก็ตามแล้วมันไม่ติด ต้องการเช็คว่ามีไฟเข้ามั้ย ก็เอาปากกาไปจ่อไว้ใกล้ๆกับสายไฟ หากมีเสียงเตือนและแสงกระพริบจากปากกาเช็คไฟ แสดงว่าจุดๆนั้นยังคงมีกระแสไฟฟ้าไหลเวียนอยู่ ห้ามจับด้วยมือเปล่าเด็ดขาด เดี๋ยวไฟจะดูดเอาเน้อออออ^^

#BewonLED #สว่างนานไม่กลัวดับ #Lifestyle #Trick #Tips #lighting #electric #ปากกาเช็คไฟฟ้า #ตรวจสอบไฟรั่ว #ความปลอดภัย #หน้าฝน

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *